วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

การพัฒนาสมองในชีวิตประจำวัน

เราใช้สมองตั้งแต่เริ่มตื่นนอน คิดและทำกิจวัตรประจำวัน สมองส่วนหน้า(Frontal lobe)มีขนาดใหญ่ที่สุดมีหน้าที่ควบคุมระบบกล้ามเนื้อสำหรับการเคลื่อนไหว เกี่ยวข้องกับการวางแผน การควบคุมให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ต้องการ อารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรม และต่อเนื่องกับส่วนอื่นๆของสมอง สมองส่วนนี้ปกติใช้งานเพียง20% มีความสามารถของสมองที่ซ่อนเร้นอีกกว่า80% การพัฒนาขีดความสามารถของสมองโดยดึงความสามารถที่เหลือหรือการใช้สมองอย่างเต็มที่เป็นจุดประสงค์ของการพํฒนาสมองที่แท้จริง ร่างกายมนุษย์เปรียบเสมือนจักรกลชีวภาพ เราเติมพลังงานจากสารอาหารที่กินเข้าไปเปลี่ยสสารเป็นพลังงาน กระแสไฟฟ้า ที่สมองมีคลื่นไฟฟ้าที่วัดได้ การทำงานของสมองเชื่อมโยงสั่งการด้วยสารเคมี และกระแสไฟฟ้า ขนาดต่ำ การพัฒนาสมองให้ทำงานเต็มที่โดยใช้พลังงานต่ำ เช่น การทำสมาธิ หยุดการคิดที่สิ้นเปลืองพลังงานในเรื่องต่างๆที่ก่อให้เกิดความฟุ้งซ่าน ควบคุมให้คิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนสำเร็จเป็นตัวอย่างเทคนิคการพัฒนาสมอง การประกอบกิจวัตรประจำวันจึงสามารใช้เป็นแนวทางในการฝึกสมองขั้นพื้นฐานเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐาน อันนำไปสู่การพัฒนาขั้นสูง
เมื่อวิเคราะห์การทำงานของสมอง จากการรับรู้ข้อมูลจากภายนอกและภายในร่างกาย นำไปสุ่การคิด และแปลงสัญญาณประสาท เป็นคำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหวผ่านกล้ามเนื้อ เช่น เมื่อรู้สึกหิว ปริมาณน้ำตาลในเลือดต่ำสมองก็จะคิดว่าอาหารอยู่ที่ใดจะไปหาอาหารจากที่ไหน และ ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหว ออกหาอาหาร พัฒนาจากการล่าสัตว์เกิดระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา เกิดอาชีพ เพื่อหาอาหาร จากการตอบสนองขั้นพื้นฐาน นำไปสู่กระบวนการคิดที่ซับซ้อนขึ้น เกิดระบบแลกเปลี่ยนเงิน จึงเห็นได้ว่าสมองมนุษย์มีการพัฒนาจากกิจวัตรประจำวันเกิดระบบเศรษฐกิจ เพื่อหาอาหารและปัจจัยเพื่อการอยู่รอด
การทำกิจวัตรประจำวัน เริ่มจากการรับรู้ การกำหนดเป้าหมาย ลำดับขั้น การวางแผน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ทั้งนี้อาจมีการวางแผนการเคลื่อนไหวหลายแบบ และต้องรู้จักเลือกแผนที่ดีที่สุดที่ตอบสนองตรงตามความต้องการหรือวัตถุประสงค์หรือมองภาพด้วยใจจินตนาการถึงการกระทำและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นการฝึกการสร้างมโนภาพ และทำให้เกิดขึ้นจริง เมื่อฝึกฝนบ่อยๆก็จะพัฒนาขีดความสามารถมองเห็นการณ์ที่จะเป็นไปในอนาคตและผลลัพธ์ต่างๆที่เกิดจากการกระทำในปัจจุบัน บางครั้งมีนักคิดเรียกวิธีการนี้ว่าเป็นการฝึกฝนพลังจิต ซึ่งคือการฝึกสมองให้ใช้งานเต็มที่อย่างมีประสิทธิภาพ บางครั้งคลื่นสมองเปรียบเสมือนคลื่นพลังงานสามารถควบคุมวัตถุภายนอกเช่น งอช้อน เคลื่อนไหววัตถุที่อยู่ห่างออกไป หรือควบคุมคลื่นความคิดผู้อื่นที่เรียกว่าสะกดจิต และสามารถพิสูจน์ได้โดยวิทยาศาสตร์เป็นการศึกษาวิจัยทั้งโครงการลับของประเทศมหาอำนาจต่างๆ ในที่นี้มุ่งเน้นการฝึกสมองในทางสร้างสรรค์ และใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนการพัฒนาสมองขั้นสูงดังกล่าวจะบรรยายต่อไป