วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การปรับเปลี่ยนพันธุกรรมเพื่อพัฒนาสมองโดยวิธีธรรมชาติ

ดังที่ได้กล่าวถึงเรื่องมหัศจรรย์ในอดีตที่คนในยุคโบราณไม่เข้าใจ มีผู้รู้คิดและสั่งสอนวิธีการต่างๆ ตั้งแต่การดำเนินชีวิต การค้นหาความจริงตามธรรมชาติ เดิมที่มีหลายเรื่องที่คนไม่รู้ คนมีสมองจึงรู้จักคิดเกิดความสงสัยในสิ่งต่างๆ และค้นหาคำตอบด้วยวิธีการมากมายเกิดการเรียนรู้ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาสมอง การตอบปัญหาต่างๆตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน กำเนิดของคน การหาปัจจัยเพื่อการอยู่รอด ไปจนถึงทำอย่างไรจึงจะมีความสุข กำเนิดเป็นปรัชญา วิทยาการ วิทยาศาสตร์ต่างๆรวมทั้ง คำสอน(ศาสนา) การเรียนจากสิ่งที่อัจฉริยบุคคลในยุคโบราณคิดค้นสำเร็จเป็นเรื่องที่ฟังดูเหลือเชื่อ เช่น การฝึกให้ปราศจากกิเลส การเล่นฤทธิ์ต่างๆ เช่นการไปในที่ที่คนธรรมดาไปไม่ได้ การไปท่องเที่ยวยังดาวต่างๆ การเหาะเหินเดินอากาศ การเห็นอนาคต การเห็นอดีต การรู้ใจรู้ความคิดผู้อื่น การกระทำสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามต้องการ(มโนมยิทธิ อิทธิวิธี)ซึ่งมีผู้ที่ทำได้จริงและสอนวิธีการฝึกถ่ายทอดต่อกันมานานนับสองพันปี เผยแพร่เป็นคัมภีร์มากมายมีผู้ที่ฝึกสำเร็จมากมายและที่สำคัญที่สุดสำหรับความฉลาดสูงสุด คือคิดวิธีพ้นจากความทุกข์ ไม่ต้องแก่ ไม่เจ็บป่วย และไม่ตาย เป็นอมตะ กำหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรุ้หรือฝึกคิดถึงขั้นสูงสุด นิพพานพ้นความทุกข์ อยู่เหนือโลกทั้งมวล ผู้ที่ฉลาดที่สุดในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถคิดวิธีการดังกล่าวได้ การพัฒนาสมองด้วยการคิดตามความเป็นจริงทางธรรมชาติ รู้เหตุรู้ผล กระทำเหตุให้ชัดเจน และดำเนินวิธีการอันนำไปสู่ผลสำเร็จ ที่ต้องยกตัวอย่างโดยอ้างอิงหลักแห่งคำสอนเพื่อความรู้แจ้ง เพื่อให้ง่ายต่อการฝึกสมองโดยวิธีที่เร็วและสะดวกที่สุด เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมทางธรรมชาติ สามารถยืดอายุ และฉลาดรอบรู้ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่สุด เกิดมาทำไม และมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร สำหรับศาสดาผู้คิดค้นนั้น ได้แสดงปาฏิหารย์เล่นฤทธิ์นับครั้งไม่ถ้วนมีการเดินกลางอากาศ การเปิดโลก การแปลงกาย ในการเอาชนะเจ่าลทธิผู้มีฤทธฺิ์ในยุคนั้นยิ่งกว่ายอดมนุษย์ในหนังทีวี สามารถที่จะมีชีวิตและกำหนดอายุขัยตนเองได้ จะอยู่สักร้อยปีก็ได้ แต่ปลงอายุขัยเพื่อให้คนทั้งหลายเห็นว่าทุกอย่างหนีไม่พ้นความจริงที่มีเกิดก็ต้องมีแก่มีเจ็บมีตาย ถ้าไม่มีเกิดก็ไม่มีแก่ไม่เจ็บไม่ตาย แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่เกิดอีก สู่สภาวะที่เรียกว่านิพพานกลับสู่ธรรมชาติ ไม่ว่าจะพัฒนาสมองด้วยวิธีใดก็คงไม่พ้นวิธีที่ดีที่สุดดังกล่าว ผู้ที่คิดค้นพัฒนาสมองจนสำเร็จ เรียนมาจากหลายสำนักปฏิบัติอย่างหนักหลายปีไม่สำเร็จเพื่อหาทางพ้นทุกข์ ต่อเมื่อเลิกคิดด้วยวิธีเดิม มาพิจารณาความจริงทางธรรมชาติ เพียงชั่วข้ามคืนเกิดการเปลี่ยนแปลงคลื่นสมอง เห็นเหตุ อดีต เห็นผล อนาคต เห็นความรู้จริง บรรลุความฉลาดสูงสุด การมองเห็นโดยไม่ได้ใช้ตามอง ไม่ใช้สมการ เห็นความจริง รู้เรื่องในทุกสรรพสิ่งที่สงสัยกลายเป็นอัจฉริยะบุคคลในเวลาอันสั้นพร้อมทั้งมีพลังจิต(คลื่นพลังงานสมอง)รอบรู้และกระทำได้จริงทุกอย่างแม้แต่การเอาชนะความเจ็บป่วยและชนะความตาย
การฝึกสมองตามหลักวิธีคิดทางธรรมชาติเป็นเรื่องง่าย มีผู้เขียนถ่ายทอดในหนังสือหลายเล่ม แต่จะหาผู้ที่สามารถสอนให้เห็นความจริงดังกล่าวหาได้ยากในปัจจุบันส่วนใหญ่มักถ่ายทอดแบบเล่าต่อๆกันมาจะหาผู้ที่รู้และเข้าใจแท้จริงมีอยู่น้อย จึงเป็นเรื่องที่ผู้ฝึกสมองพึงหาวิธีที่เหมาะสมแก่ตนในการพัฒนาสมองเพื่อความฉลาด เช่นเดียวกับการเปลี่ยนพันธุกรรม การจะเป็นผู้รู้จริงมิใช่รู้แต่ในตำรา รู้แต่ในสถาบันตนที่สอนต่อๆกันมาหรือรู้โดยการเล่าการสอนกันมาพึงแสวงหาความจริงด้วยตนเองแล้วรู้อย่างแท้จริงหรือฉลาดอย่างแท้จริงตามวิธีทางธรรมชาติด้วยความรวดเร็วดังเช่นผู้คิดค้นศาสดาที่ทำสำเร็จเพียงชั่วข้ามคืน